อาหารไทย เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมไทยที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ของมื้ออาหารสไตล์ไทยที่แตกต่างไปจากเดิม ลองเปิดใจไปกับ “Le Du” หนึ่งในร้านอาหารมิชลินสตาร์ที่มาพร้อมกับรางวัลการันตีความอร่อยมากมาย
ไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ต่างก็หลงใหลในเสน่ห์ของอาหารจานเด็ด ที่มีความโดดเด่นทั้งหน้าตาที่ผ่านการจัดแต่งอย่างสวยงาม รวมถึงรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งทางร้านยังใส่ใจในทุกขั้นตอนการทำ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ผ่านกรรมวิธีที่พิถีพิถัน
ทำให้ได้จานพิเศษพร้อมเสิร์ฟถึงโต๊ะ รับประกันความอร่อย คุ้มค่ากับการไปทานที่ร้านแน่นอน ก่อนไปดูเมนูอาหารสูตรเฉพาะของทางร้าน Le Du ตามเราไปทำความรู้จักกับร้านแห่งนี้กันก่อน
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รีวิว Le Du ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิง รางวัลมิชลินสตาร์
Le Du เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเรียกในภาษาไทยว่า “ฤดู” ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของเชฟต้น – ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ในการเปิดร้านอาหารไทยสไตล์ Fine dining แน่นอนว่าเอกลักษณ์ของอาหารไทยนั่นคือจานอาหารที่มาจากวัตถุดิบชั้นดี และต้องเป็นวัตถุดิบของไทยที่หาได้ในธรรมชาติที่สมบูรณ์ของเมือง ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ
เมื่อนำมาปรุงรสชาติตามแบบไทย ๆ ก็อร่อยจนได้รับรางวัล Michelin star และนอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดของเอเชีย ลำดับที่ 1 ในปี 2023 จากการสำรวจของ Asia’s 50 Best Restaurants ไม่พอแต่เพียงเท่านี้ เพราะร้าน Le Du ยังติดอันที่ 15 ของ The World’s 50 Best Restaurants 2023 อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นร้านที่มีดีกรีไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ส่วนการตกแต่งภายในร้าน Le Du ถูกดีไซน์ให้เป็นร้านอาหารกึ่ง Casual Dining มีลักษณะคล้ายกับไวน์บาร์ เน้นความเรียบหรู แต่ไม่ได้ดูโอ่อ่าจนเกินไป ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายใจ และสบายตามากกว่า และด้วยความที่เป็นร้านอาหารสไตล์ไทย จึงใส่ศิลปวัฒนธรรมไทยลงไปผสมผสานกับการตกแต่งร้านด้วยเช่นกัน
แนะนำเมนูอาหารที่ Le Du พร้อมเสิร์ฟความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ รับประกันความอร่อย
ความพิเศษของอาหารจากร้าน Le Du คือการนำเสนอเมนูที่ได้จากวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในแต่ละช่วงฤดูกาลต่าง ๆ ของประเทศไทย เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นแบบ 100% หรือจะเรียกว่าเป็นร้านอาหารที่เสิร์ฟความอร่อยของเมนูอาหารไทยอย่างแท้จริง นี่จึงเป็นเสน่ห์ของร้านดังกรุงเทพร้านนี้ ที่ดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาใช้บริการ
โดยทางร้านจะเสิร์ฟอาหารในรูปแบบ tasting courses menu แบ่งเป็น 3 ระดับราคา ซึ่งหากมากันหลายคน ทุกคนในโต๊ะต้องเลือกเรทราคาเดียวกัน แต่สามารถเลือกเมนูที่แต่ละคนชื่นชอบได้ ซึ่งคอร์สอาหารก็จะมีทั้งแบบ 4-Course menu ราคา 2,290++ ที่ไม่สามารถเลือกเมนูข้าวขาหมูหรือสเต็กเนื้อได้ ส่วนราคา 2,990++ สามารถเลือกเมนูอาหารได้ทุกเมนู นอกจากนี้ยังมีแบบ 6-Course menu ในราคา 3,590++ ที่สามารถทานได้ทุกเมนูเช่นกัน
สำหรับเมนูอาหารของทางร้าน ไม่ว่าจะสั่งเมนูไหนก็จะได้สัมผัสกับความอร่อยที่ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน เริ่มจากเมนู “กระทงทอง” สีแดงข้างบนจะใช้บีทรูทที่ด้านในจะเป็นไส้ไก่ เป็นความแปลกใหม่ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว จานต่อไปเป็นเมนู signature อย่าง “River prawn” จานเด็ดที่ไม่ว่าใครมาทานอาหารที่ร้าน Le Du ก็ต้องสั่ง เสิร์ฟเป็นกุ้งแม่น้ำเผา ราดด้วยซอสต้มยำ ทานคู่กับข้าวคลุกกะปิ อร่อยสุด ๆ หรือจะเป็น “Squid” ปลาหมึกไข่ชิ้นโต จิ้มซอสครีมน้ำพริกกะปิ รสชาติกลมกล่อม ทั้งนี้ยังมี “Ocean cat fish” อีกหนึ่งเมนูความอร่อยที่นำเอาปลาดุกทะเลไปย่างพร้อมใส่ส่วนผสมของไข่ปลาดุกดองลงไป ทานคู่กับแกงปลาดุกรมควันและผักเครื่องเคียง
ส่วนเมนูของหวานก็หลากหลายไม่แพ้กัน มีให้เลือกทั้ง “Mango pudding” สัมผัสความสดชื่นของไอศกรีม พุดดิ้ง มะม่วงสดและเจลมะม่วง ตามมาด้วย “Chiang Mai chocolate” เมนูจากช็อกโกแลตที่ส่งตรงจากเชียงใหม่ Coconut panna cotta ปิดท้ายด้วยขนมกล้วยและขนมน้ำดอกไม้
บทสรุป How to เดินทางไปเช็คอินร้าน Le Du ดื่มด่ำกับบรรยากาศของร้านอาหารสุดหรู อร่อยทุกเมนู
เดินทางกันมาถึงจุดนี้แล้ว ใครที่สนใจอยากไปลิ้มลองความอร่อยของอาหารที่เสิร์ฟจากทางร้าน Le Du สามารถจองโต๊ะกับทางร้านได้โดยตรง วันหยุดนี้ลองชวนครอบครัว คนรัก หรือแก๊งเพื่อนไปทานร้านอาหารไทยที่บรรยากาศดีต่อใจ แถมรสชาติยังไม่เป็นสองรองใครจนได้รับรางวัลการันตีมากมาย เพราะรสชาตินั้นรังสรรค์มาให้เหมาะกับทุกคน สามารถทานได้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ถือเป็นการพักผ่อนที่ทำได้ง่าย ๆ และเติมเต็มความสุขได้ไม่ยาก รับรองว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติม
พิกัดที่ตั้ง : 399/3 สีลมซอย 7 กรุงเทพมหานคร (ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ทางออกที่ 4 และใกล้กับที่จอดรถ Trinity Complex)
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/BKa4ASUSzPgouhyM9
วัน-เวลา เปิดบริการ : เปิดเวลา 19.00-22.00 น. (ปิดทุกวันอาทิตย์)
เบอร์โทรศัพท์ : 092-919-9969
Facebook : Le Du
Website : www.ledubkk.com
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ ซอกแซก.com
