วัดทักซัง หุบเขาศักดิ์สิทธิ์

วัดทักซัง

ภูฏานประเทศเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาหิมาลัยตั้งอยู่ระหว่างอินเดียและทิเบต วัดทักซังหรือวัดถ้ำเสือ เป็นวัดในศาสนาพุทธที่มีความเก่าแก่ที่สุดในภูฏาน สร้างขึ้นในปี ค. ศ. 1962 ตัววัดตั้งอยู่ริมหน้าผาสูงเสียดฟ้า อยู่ท่ามกลางหมอกหนาบนหุบเขาในเมืองพาโร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีชื่อเสียงระดับโลก และมีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาวัดวาอารามของพุทธศาสนาในภูฏาน เป็นสถานที่สำคัญของประเทศภูฏาน และชาวภูฏานเลื่อมใสศรัทธามากที่สุด ดินแดนที่ใครหลายคนต่างร่ำลือว่าแสนสงบ ร่ำรวยความสุข และมีอารยธรรมอันเก่าแก่ที่สืบทอดกันมายาวนาน วัดทักซังมีตำนานเล่าขานอะไรบ้างและมีความสำคัญอย่างไร วันนี้ ซอกแซก.com จะมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ

วัดทักซัง

ตำนานวัดทักซัง หุบเขาศักดิ์สิทธิ์ในภูฏาน

เมื่อนานมาแล้วมีท่านคุรุรินโปเซ แปลงร่างเป็นเสือได้อาศัยอยู่ในถ้ำก่อนจะเป็นวัดทักซังในภูฏาน ฝึกสมาธินานถึง 3 เดือน ท่านคุรุรินโปเซได้แสดงอิทธิฤทธิ์ในการปราบภูตผีปีศาจ พอจะเทศนาธรรมให้มนุษย์ได้ฟังก็จะกลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์ จนผู้คนที่ได้ฟังต่างพากันเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงได้สร้างวิหารเพื่อแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ในด้านพระพุทธศาสนา และได้ทำการบูรณะจากเหตุเพลิงไหม้ในปี ค.ศ. 1998 ด้วยความเลื่อมใสในพุทธศาสนา และความงดงามของวัดทักซัง หุบเขาศักดิ์สิทธิ์ในภูฏาน ทำให้นักแสวงบุญต่างอยากเดินทางไปให้เห็นกับตาสักครั้งในชีวิต

วัดทักซัง

การเดินขึ้นหุบเขาวัดทักซัง ภูฏาน

การเดินขึ้นหุบเขาวัดทักซัง ภูฏานจะมี 2 แบบ ได้แก่ การขี่ม้า และการเดิน ระยะทางเดินขึ้นประมาณ 13 กิโลเมตร ถ้าใครขี่ม้าก็จะลดระยะการเดินขึ้นวัดลงได้ประมาณ 7 กิโลเมตร ม้าจะส่งแค่ครึ่งทางที่เหลือต้องเดินขึ้นต่อไปเอง ตอนลงเขาทางจะลาดชันมาก ระหว่างทางจะมีจุดให้พักเข้าห้องน้ำและดื่มน้ำ และจะมีคาเฟ่เล็ก ๆ คอยบริการ ชาวภูฏานจะถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จะไม่ขี่ม้า แต่ใครอยากถึงเร็วและสะดวกแนะนำให้ขี่ม้า ใช้เวลาในการเดินขึ้นไปยังวัดประมาณ 2 ชั่วโมง ทุกคนจะต้องผ่านการขึ้นบันไดทั้งหมด 700 ขั้น ระหว่างทางจะได้ชมธรรมชาติที่สวยงามไปด้วย เมื่อมาถึงวัดฝั่งตรงข้ามวัดจะมีน้ำตกศักดิ์สิทธิ์ถือว่าเป็นน้ำที่ธรรมชาติสุดๆ สามารถดื่มได้ ด้วยแรงศรัทธาจึงทำให้นักแสวงบุญทุกคนพิชิตหุบเขาศักดิ์สิทธิ์นี้ได้

วัดทักซัง

อย่างไรก็ตามสำหรับนักแสวงบุญการเดินทางขึ้นเขาจะต้องใช้พลังอย่างมากมาย เส้นทางที่ยากลำบากในการเดินขึ้นก็ไม่ใช่อุปสรรคในการขึ้นไปกราบไหว้ท่านคุรุรินโปเซด้วยใจที่ศรัทธา ความสวยงามของวัดท่ามกลางหุบเขาสายหมอก จะทำให้หายเหนื่อยอย่างแน่นอน ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกที่หนึ่งของโลกที่น่าเดินทางสักครั้งในชีวิต