เปิดตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของท้าวหิรัญพนาสูร ที่พึ่งทางใจที่สายมูไม่ควรพลาด

ท้าวหิรัญพนาสูร

เปิดตำนาน ท้าวหิรัญพนาสูร เทพผู้อารักขารัชกาลที่ 6 ที่มีชื่อเสียงในด้านการให้พร ให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายและโรคภัยไข้เจ็บ ยิ่งในช่วงที่ผู้คนต้องเผชิญอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกันด้วยคำทำนายของโรคระบาดรุนแรง ที่จะเกิดขึ้นในอีก 100 ปีข้างหน้า ตรงกับช่วงเดือนเมษายน พ.ศ.2563 ที่เกิดวิกฤตโควิด-19 นั่นเอง 

ตามคำทำนายได้บอกเอาไว้ด้วยว่า เหตุการณ์ทั้งหลายจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2564 และจะค่อย ๆ ดีขึ้นในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ.2565 ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา มีผู้คนแวะเวียนกันเข้าไปกราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก ในบทความนี้ ซอกแซก.com จะพาทุกคนไปทำความรู้จักถึงประวัติความเป็นมาของศาลแห่งนี้ ซึ่งจะมีความเป็นมาอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

พาไปส่องประวัติท้าวหิรัญพนาสูร ก่อนจะมาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยอดฮิตที่กำลังมาแรงในปี 2023

ท้าวหิรัญพนาสูร

ท้าวหิรัญพนาสูร หรือ ท้าวหิรัญฮู เป็นอสูรเทพารักษ์ประจำพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี ร.ศ. 126 ช่วงที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังไม่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ 

ครั้งเสด็จประพาสยังเมืองลพบุรี หนึ่งในคืนที่กำลังพักผ่อน ผู้ตามเสด็จท่านหนึ่งมีนิมิตฝันเห็นชายที่มีร่างกายกำยำมาหา แล้วบอกชื่อเสียงเรียงนามว่าชื่อ “หิรัญ” ทั้งยังเป็นอสูรชาวป่า มาพร้อมแจ้งความประสงค์ว่า นับตั้งแต่นี้ไปตนจะคอยตามเสด็จพระองค์ ทุกที่ ทุกเวลา รับหน้าที่คอยดูแลและระวังภัยอันตรายไม่ให้มากล้ำกราย

เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบความดังกล่าว จึงมีพระราชดำรัสให้จุดธูปเทียน และจัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ “ท้าวหิรัญฮู” ณ ที่แห่งนั้นทันที และหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเสด็จไปยังที่ใดก็ตาม หากถึงเวลาค่ำคืนซึ่งเป็นยามเสวย ก็จะทรงมีพระราชดำรัสให้เตรียมของเซ่นไหว้อยู่เสมอมา 

เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงช่วงเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ก็ยังทรงระลึกถึงท้าวหิรัญฮูอยู่เช่นเดิม จึงเกิดเป็นรูปหล่อท้าวหิรัญฮูด้วยทองสัมฤทธิ์ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างหลวงมาหล่อรูปเคารพ และอัญเชิญท้าวหิรัญฮูเข้าสถิตในรูปหล่อนั้น 

รวมถึงยังคงให้ข้าราชบริพารจัดเครื่องเซ่นสังเวยเป็นประจำ โดยมีการพระราชทานนามใหม่ว่า “ท้าวหิรัญพนาสูร” พร้อมทั้งแต่งองค์ทรงเครื่องสวมชฎาแบบโบราณ ทั้งนี้ยังมีไม้เท้าเป็นเครื่องประดับยศอีกด้วย

ซึ่งระหว่างนั้นมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการที่พระยาอาทรธรศิลป์ช่างหล่อรูปเคารพ และผู้หล่อแกลเลตตี นายช่างชาวอิตาเลี่ยนที่มาทำงานในกรมศิลปากร หลังจากที่หล่อขึ้นรูปเสร็จเรียบร้อย ก็ต้องทำการยกขึ้นตั้งบนฐานในพระราชวังพญาไท ซึ่งขั้นตอนที่แกลเลตตีเลือกใช้คือ การเอาเชือกผูกคอท้าวหิรัญฮูแล้วค่อยชักรอกขึ้นไป 

จากนั้นแกลเลตตีก็เริ่มมีอาการป่วยจนไม่สามารถทำงานต่อได้ ด้วยอาการคอเคล็ดแบบที่ไม่ทราบสาเหตุ และเมื่อพระอาทรได้เข้าไปเยี่ยมก็ทราบถึงสาเหตุของการป่วยทันทีว่า เพราะแกลเลตตีใช้เชือกผูกคอรูปหล่อนั่นเอง ดังนั้นจึงแนะนำให้เอาดอกไม้ ธูป และเทียนไปขอขมาเสีย หลังจากทำตามคำแนะนำก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง                                                   

แนะนำของสักการะท้าวหิรัญพนาสูร พร้อมแนบคาถาและวิธีบูชาเทพเจ้าแห่งดงพญาเย็น

สำหรับใครที่สนใจอยากแวะเวียนไปสักการะกราบไหว้ท้าวหิรัญพนาสูร เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง ให้นำธูป 16 ดอกมาจุดแล้วตั้งนะโม 3 จบ ต่อด้วยคาถาบูชา “ระหินะ ภูมาสี ภะสะติ นิรันตะรัง ลาภะสุขัง ภะวันตุเม” (สวด 9 จบ) แล้วจึงขอพรตามต้องการเพียงแค่ตั้งจิตให้นิ่ง และสิ่งของที่นิยมนำมาถวายกันในตอนขอพรนั้น มักจะเป็นดอกดาวเรืองหรือดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เสริมทัพด้วยหมากพลู ขนมไทยโบราณ และผลไม้นานาชนิด

ท้าวหิรัญพนาสูร

เมื่อสมหวังดังใจปรารถนา ผู้มีศรัทธาควรถวายสังฆทานให้ท่าน และสิ่งที่ควรนำมาถวายเพิ่มเติมคือ ชุดบายศรีพรหม บายศรีเทพ บายศรีปากชาม ตามตำนานเล่าว่า ท่านจะโปรดขนุนเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังสามารถนำมะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า สับปะรด และดอกดาวเรืองอีก 9 พวง มาถวายร่วมด้วยก็ได้เช่นเดียวกัน

ในบริเวณนั้นซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมานัก ยังมีศาลเจ้าแม่ตะเคียนที่ขุดพบบริเวณหน้าวัง แถมยังมีชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของการขอโชคลาภเงินทองมากเช่นกัน สังเกตได้จากชุดนางรำที่มีผู้คนแวะเวียนกันมาถวายไม่ขาดสาย ข้าง ๆ มีไม้ตะเคียนที่แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่เสื่อมสลายไป ตามความเชื่อของชาวไทยที่ว่า จะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาอยู่ นอกจากนี้ยังมีพระปางนาคปรกที่แตกต่างไปจากที่อื่น ๆ เพราะองค์พระพุทธรูปนั่นไม่ได้ประทับอยู่บนนาค แต่กลับถูกนาคล้อมไว้ นั่นเอง

บทสรุป How to เดินทางสักการะศาลท้าวหิรัญพนาสูร ที่เที่ยวตามสไตล์สายมู เดินทางง่ายใกล้นิดเดียว

ท้าวหิรัญพนาสูร

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหาที่เที่ยวสายมู เพื่อไปกราบไหว้บูชา เสริมสร้างสิริมงคลให้กับชีวิตในช่วงนี้ สามารถเดินทางไปยังศาลท้าวหิรัญพนาสูรที่ 315 ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็คือด้านหลังของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าหรือพระราชวังพญาไทเดิมนั่นเอง ไม่ต้องเดินทางไปถึงต่างจังหวัดก็เตรียมตัวรับความปังได้เลย

ท้าวหิรัญพนาสูร