กะอ์บะฮ์ ความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของชาวมุสลิม

กะอ์บะฮ์

วันนี้ ซอกแซก.com จะพาไปทำความรู้จักกับ “กะอ์บะฮ์” กะอ์บะฮ์มีความสำคัญสูงสุดในศาสนาอิสลาม อาคารทรงลูกบาศก์ตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางมัสยิด อัล ฮะรอม นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุดในโลก ในการประกอบพิธีฮัจญ์ ละหมาด และอุมเราะฮ์ ไม่ว่าชาวมุสลิมจะอยู่ที่ไหนของโลกจะต้องหันหน้าไปยังทิศทางของกะอ์บะฮ์ โครงสร้างอาคารทรงลูกบาศก์สูงประมาณ 15 เมตร สร้างด้วยหินที่ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่อขึ้นมาทั้ง 4 ด้าน ประตูจะถูกหุ้มด้วยทองคำ ส่วนมุมด้านขวาของประตูจะบรรจุหินสีดำ ตามประเพณีแล้วหินก้อนนี้ถูกมอบให้กับอดัมในการขับไล่จากสวรรค์ เพื่อที่จะได้รับการอภัยบาปของเขา เดิมทีหินเป็นสีขาว แต่กลายเป็นเพราะดูดซับบาปของผู้แสวงบุญนับไม่ถ้วนที่ได้จูบและสัมผัสหิน กะอ์บะฮ์นั้นเดิมไม่ได้เป็นสีดำ ในสมัยคอลีฟะห์หลายท่านปรับเปลี่ยนผ้าสีต่าง ๆ จนราชวงศ์อับบาซียะห์ ได้ตัดสินคุมด้วยผ้าสีดำเป็นการเปลี่ยนครั้งสุดท้ายอย่างที่เราได้เห็นในปัจจุบัน 

กะอ์บะฮ์

ความเป็นมาของอาคารกะอ์บะฮ์

กะอ์บะฮ์ถูกสร้างโดยมนุษย์คนแรกที่ชื่อว่า “อาดัม” เพื่อเป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวมุสลิม หลังจากนั้นกะอ์บะฮ์ก็ถูกสร้างใหม่หลายครั้งหลักจากการพังทลายลงด้วยภัยธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ ในคัมภีร์อัลกุรอาน บอกว่าอิบรอฮีมและอิสมาอีล บัญชาให้ลูกชายสร้างกะอ์บะฮ์ขึ้นมาใหม่ เป็นบ้านหลังแรกของการเคารพบูชาต่ออัลลอฮ์ ถือเป็นจุดกำเนิดอันหนึ่งอันเดียวของชาวมุสลิมทั่วโลกและเรียกร้องให้ชาวมุสลิมมาเคารพบูชาอาคารทรงลูกบาศก์นี้ เมื่ออิบรอฮีมและอิสมาอีลเสียชีวิต ก็ถูกมุฮัมมัดเข้ายึดนครมักกะฮ์ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีการบูชาเทวรูปองค์ใดนอกจากอัลลอฮ์แค่เพียงพระองค์เดียว มุฮัมมัดจึงได้ทำการบูรณะกะอ์บะฮ์ให้เป็นศูนย์กลางการเคารพบูชาของพระองค์อัลลอฮ์เพียงผู้เดียว ต่อมาก็ได้มีการสร้างใหม่ซ่อมแซมมาหลายยุคสมัยถึง 12 ครั้ง และกะอ์บะฮ์จะถูกทำความสะอาดแค่ปีละ 2 ครั้ง ปัจจุบันรัฐบาลจะเป็นผู้ดูแลกะอ์บะฮ์และอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวมุสลิมที่มีประกอบพิธีฮัจญ์ 

กะอ์บะฮ์

ทางวิทยาศาสตร์ได้ชี้แจงถึงหินสีดำที่อยู่มุมขวาของประตู เป็นหินที่มาจากนอกโลก สันนิษฐานว่าเป็นชิ้นส่วนจากอุกกาบาต ด้วยองค์ประกอบของธาตุบางชนิดที่พบไม่มีในโลก แต่ก็มีชาวมุสลิมบางส่วนที่ไม่เชื่อในหินดำบอกว่าไม่ใช่หินศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพียงสัญลักษณ์ที่บ่งบอกจุดกำเนิดของชาวมุสลิมทั่วโลกเท่านั้นเอง และมีข้อสงสัยว่าทำไมเครื่องบินถึงไม่บินผ่าน แต่ในมักกะฮ์นั้น ไม่มีสนามบิน ทำให้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไร ที่จะมีเครื่องบินมาบินผ่านไปผ่านมา มันอาจจะฟังดูแปลก ๆ จากจำนวนผู้คนที่ไปทำพิธีฮัจญ์ที่นั่นหลายสิบล้านคนต่อปี แต่ประเทศซาอุดีอาระเบียค่อนข้างที่จะเข้มงวดในเรื่องนี้ บ้างก็บอกว่าเป็นจุดที่เป็นสนามแม่เหล็กหนาแน่นจึงทำให้เครื่องบิน บินผ่านไม่ได้ หรือเป็นเพราะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลก เลยไม่มีใครก็ฝ่าฝืนอาจจะทำให้เกิดหายนะ สุดท้ายแล้วกะอ์บะฮ์เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างมันมีความลับในตัวของศาสนาอิสลาม เพราะอัลลอฮ์เป็นผู้กำหนด