ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักร้านชาบูมาแรงที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง Mo-Mo-Paradise หนึ่งในร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู สุกี้สไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการในไทย ด้วยความหอมละมุนของน้ำซุปที่มีให้เลือกมากมาย รสชาติกลมกล่อม เนื้อสัตว์หลากหลายประเภทที่มาพร้อมกับวัตถุดิบพรีเมียมอีกเพียบ คุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคา แม้คิวจะยาวเหยียดแค่ไหน สายกินก็พร้อมที่จะต่อคิวรอ ตาม ซอกแซก.com ไปดูกันว่าร้านชาบูที่มีชื่อเสียงโด่งดังและโดดเด่นร้านนี้ จะมีอะไรน่าสนใจ รอให้เราเข้าไปลิ้มลองด้วยตัวเองอยู่บ้าง ตามไปดูกันเลย!
ชวนไปส่องความปัง Mo-Mo-Paradise สุกี้ในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ แกะสูตรมาจากต้นตำรับ
ต้องยอมรับเลยว่า Mo-Mo-Paradise เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นที่คนไทยอยากลองทานมากที่สุด ด้วยความโดดเด่นในเรื่องของรสชาติชาบูสุกี้แบบฉบับของญี่ปุ่นแท้ ๆ ความอร่อยที่แกะออกมาจากต้นตำรับ ทำให้หลายคนอยากจะรู้ว่าจะอร่อยสมคำร่ำลือหรือไม่ ทางเราขอการันตี เพราะร้านนี้เขาเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1993 สาขาแรกก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในญี่ปุ่น ซึ่งคอนเซปท์ร้านในยุคนั้นก็คือลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้ไม่อั้นจนกว่าจะรู้สึกอิ่ม หรือที่เรียกว่าบุฟเฟ่ต์ในยุคนี้นั่นเอง เมื่อได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น เจ้าของร้านจึงมองเห็นช่องทางในการสร้างธุรกิจ และขยายสาขาไปทั่วโลกแล้วกว่า 70 สาขาในปัจจุบัน
Mo-Mo-Paradise ในประเทศไทยเองก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีไม่น้อย เพราะตอนนี้ก็พร้อมให้บริการกว่า 19 สาขาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งความพิเศษของเมนูอาหารภายในร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูแห่งนี้ก็มีอยู่มากมาย ส่วนใหญ่จะแตกต่างจากร้านอื่นอย่าเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุปที่มาพร้อมกับน้ำจิ้มเป็นเซต ใครเลือกทานน้ำซุปแบบไหนก็จะมีน้ำจิ้มที่ทางร้านจัดมาแล้วว่าอร่อย ไม่ต้องเลือกให้เสียเวลา นอกจากนี้ยังเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่มีไลน์เมนูน้อยที่สุด ด้วยความตั้งใจที่จะเน้นคุณภาพของวัตถุดิบอย่างดีที่สุด แม้จะมีให้เลือกไม่มาก แต่อร่อยสุดยอดไปเลย
เลือกทาน Mo-Mo-Paradise สาขาใกล้บ้าน เปิดร้านที่ไหนก็ปัง คิวยาวเป็นแถว รอนานก็ไม่หวั่น
สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูคุณภาพที่พลาดไม่ได้ Mo-Mo-Paradise นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ต้องไปลองทานให้ได้สักครั้ง หากได้ลองทานรับรองจะติดใจ เพราะร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่ที่น้ำซุปกับเนื้อ เมนูของหวานก็ปังไม่แพ้กัน สามารถสอบถามข้อมูลและโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page : Mo-Mo-Paradise (Thailand) แล้วอย่าลืมไปลองด้วยตัวเองกันนะคะ
